เรามารู้ค่าความไวแสง หรือ ค่า ISO ในกล้อง DSLR กันเถอะครับหลายๆคนที่มีกล้องถ่ายรูปมักจะเคยได้ยินคำว่า ISO กันอยู่บ่อยๆบางท่านอาจจะยังไม่รู้ถึงความหมายและประโยชน์ที่แท้จริงของมันวันนี้เราก็เลยมาพูดถึงเรื่องของคำว่า ISO
ISO ถ้าแปลให้เป็นไทยก็จะหมายถึง ค่าความไวแสง ที่ใช้ในการถ่ายภาพโดยเท่าที่เราคุ้นเคยก็จะมีค่าตั้งแต่ 50 ไปจนถึง 20,000-30,000 ในกล้องที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เลยทีเดียว....
ค่า ISO ที่สูง - ต่ำ จะใช้ในสถาการณ์ไหน?
หลายๆคนมีข้อสงสัยว่าค่า ISO ที่สูง และ ต่ำ นั้น แตกต่างกันอย่างไร และใช้ในกรณีใด คำตอบก็คือ
- ค่า ISO ที่สูง นั้น เรามักจะใช้ในการถ่ายภาพในสภาวะแวดล้อมที่มี แสงสว่างน้อย เนื่องจากมีแสงสว่างน้อย จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งสัญญาณภายในตัวกล้องให้ทีความไวแสงมากขึ้นเพราะถ้าหากเราไม่เลือกใช้ค่า ISO ที่สูงนั้นจะทำให้ภาพที่ได้นั้นเกิด การเบลอ ไม่ชัด เป็นต้น
- ค่า ISO ต่ำ เรามักจะใช้ในงานที่มีแสงสว่างมากเพียงพอต่อการถ่ายภาพ เช่นการถ่ายภาพกลางแจ้ง เป็นต้น
- ค่า ISO สูง - ต่ำ จะให้คุณภาพของภาพที่ได้แตกต่างกันอย่างไร?
- ค่า ISO ที่สูงและต่ำ นั้น มีความแตกต่างกันที่เห็นได้อย่างชัดเจนดังนี้ ดูรูปภาพประกอบ
- ค่า ISO ที่สูง นั้น ภาพที่ได้มักจะมี Noise เกิดขึ้น Noise ก็คือเม็ดสีหยาบๆที่อยู่บนภาพของเรา ยิ่งถ้ามีมากเท่าไหร่ก็จะทำให้ภาพดูแย่ลงเท่านั้น ดังนั้นการใช้ค่า ISO ที่สูงนั้นก็จำเป็นที่จะต้องแลกมาซึ่งจำนวน Noise ที่มากขึ้นเช่นกัน
- ค่า ISO ที่ต่ำ นั้น ภาพที่ได้จะมีความใส หรือแทบจะไม่มี Noise เกิดขึ้นเลย ในการที่ต้องการความชัดเจน ของภาพนั้น ควรเลือกใช้ ISO ต่ำๆ แต่อย่าลืมว่าการใช้ค่า ISO ที่ต่ำ ในสภาพแสงที่น้อยๆ นั้นมีความเสี่ยงที่จะทำให้ภาพ เบลอ ดังนั้นควรคำนึงถึง ลักษณะแสงที่มีในตอนนั้นด้วย ว่าแสงพอดีหรือไม่
อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยีกล้อง DSLR ในปัจจุบันนี้พัฒนาขึ้นไปมาก โดยเฉพาะการใช้งานค่า ISO ที่สูงๆ นั้นการจัดการ Noise ทำได้ดีมากขึ้นจากเมื่อก่อน จนเราสามารถใช้งานใน ช่วง ISO สูงๆได้ โดย Noise ที่เกิดขึ้นนั้น น้อยลง
และสังเกตได้ว่า กล้องที่มี เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่นั้น มักจะ มี Noise น้อยกว่า กล้องที่มี เซ็นเซอร์ ขนาดเล็ก
เนื่องจาก พื้นที่ของ เซ็นเซอร์นั้นมีบริเวณใหญ่่กว่า ทำให้จำนวน ตัวรับแสง นั้นสามารถวางได้ห่างกัน มากขึ้น ทำให้ สัญญาณรบกวนระหว่าง ตัวรับแสงนั้น มีน้อย
ลองประยุคใช้กันดูนะครับ
ภาพจากอินเตอร์เนต
